บ้านชั้นเดียว รูปตัวแอล (L) ที่แสนเรียบง่ายแต่ได้ใจเต็มๆ

ความน่าสนใจของบ้านหลังนี้ไม่เพียงอยู่ที่ขนาดบ้านซึ่งมีเนื้อที่กว่า 91.51 ตารางเมตรเท่านั้น แต่ยังนำเอาโครงสร้างที่มีการยกใต้ถุนตามแบบบ้านสไตล์เอเชียนมาผสมผสานกับกลิ่นอายคันทรีในแบบตะวันตก จึงทำให้บ้านดูมีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์ไม่ซ้ำแบบใคร

ทีนี้เราลองมาดูภาพในบรรยากาศกว้างกันบ้าง จะเห็นว่าการออกแบบเนื้อที่ใช้สอยที่สถาปนิกดีไซน์ขึ้นนั้นกำหนดให้เป็นรูปตัวแอล เหมือนกับการนำแปลนบ้านญี่ปุ่นเข้ามาผสมผสานไว้ในบ้านหลังนี้ โดยทำหลังคาทรงเพิงหมาแหงนดูเท่ห์สง่างาม ให้ความเป็นโมเดิร์นทันสมัยก็จริง แต่ก็ไม่ทิ้งความเป็นคันทรีเพราะมีการนำหญ้ามาปลูกไว้ด้านบน ดูชนบทดีเหมือนกันนะ

อย่างที่บอกไปค่ะว่าเสน่ห์ของบ้านสไตล์คันทรีก็คือ การนำวัสดุที่เป็นธรรมชาติมาตกแต่ง เป็นการโชว์ความสวยงามของวัสดุแต่ละประเภท ซึ่งบ้านหลังนี้ก็ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ จะเห็นว่าทั้งเสา พื้น โครงหลังคา รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างก็ใช้ไม้สีธรรมชาติเข้ามาตกแต่งทั้งสิ้น ดูสวยงามและอบอุ่นมากๆ เลย

นอกจากโครงสร้างและการจัดสรรเนื้อที่ภายในบ้านจะใช้สอยได้อย่างคุ้มค่าและตรงกับความต้องการของเจ้าของบ้านแล้ว สถาปนิกก็ไม่ได้ละเลยเรื่องของการออกแบบแสงเช่นกัน มีการเลือกใช้แสงไฟโทนวอร์มไวท์ที่สร้างบรรยากาศภายในบ้านดูนุ่มนวล ผ่อนคลาย และสร้างอารมณ์ให้ผู้อยู่รู้สึกสบาย

ห้องนั่งเล่นเป็นที่รวมกลุ่มกันของสมาชิกในครอบครัวเพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน อย่างเช่น ดูทีวี พูดคุย รับแขก ดังนั้นจึงต้องมีเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินไว้สำหรับวางทีวี เก็บหนังสือ รวมถึงเป็นที่โชว์ของสวยงามได้ ซึ่งสถาปนิกก็สามารถดีไซน์ชั้นโปร่งสีน้ำตาลเข้มได้อย่างลงตัวทีเดียว เลือกโซฟาสีเขียวอ่อนเพื่อให้ห้องดูไม่ทึบเกินไป นอกจากนี้ยังเพิ่มแสงสว่างด้วยการทำประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาถึงด้านในได้ เป็นการประหยัดไฟฟ้าแล้วยังทำให้ห้องดูมีชีวิตชีวา สามารถมองเห็นสวนด้านนอกได้อีกด้วย

ปกติแล้วห้องนอนของคนญี่ปุ่นมักจะเน้นการพักผ่อนอย่างแท้จริง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีเฟอร์นิเจอร์หรือของใช้อะไรมากมายนัก เช่นเดียวกับบ้านหลังนี้ที่ออกแบบห้องนอนแบบเรียบง่าย มีเพียงตู้บิลท์อินสำหรับใส่เสื้อผ้าและเครื่องนอนเท่านั้น ส่วนด้านบนยังทำพื้นที่เสริมด้วยการใช้เป็นพื้นที่เอนกประสงค์ จะเอาไว้นอนเล่น หรืออ่านหนังสือก็เป็นส่วนตัวดีนะ

ห้องน้ำได้รับการออกแบบที่ดูเรียบง่ายแต่กลับมีรายละเอียดที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งผนังส่วนหนึ่งด้วยงานไม้ ส่วนผนังอีกครึ่งหนึ่งก็ติดด้วยกระเบื้องสีขาวมีลวดลายนิดหน่อย เกิดเส้นสายที่น่าสนใจ ตัดกับพื้นไม้ระแนงที่วางในแนวนอน ส่วนฟังก์ชันใช้งานก็มีทั้งฝักบัว และอ่างอาบน้ำ แถมยังออกแบบหน้าต่างให้กว้าเพื่อเปิดให้เห็นต้นไม้ด้านนอกด้วย ซึ่งข้อดีของการเจาะหน้าต่างกว้างแบบนี้นอกจากจะทำให้เราใกล้ชิดธรรมชาติแล้วก็ยังช่วยให้ระบายอากาศได้ดี

นอกจากห้องนั่งเล่นจะเอาไว้พักผ่อนแล้ว เจ้าของบ้านยังอยากให้พื้นที่ตรงนี้อบอุ่นขึ้นด้วย จากการรวมกลุ่มกันของสมาชิกในครอบครัว ดังนั้นจึงนำชุดโต๊ะรับปะทานอาหารไม้มาวางร่วมกับโซฟา เพื่อให้ใช้งานไปพร้อมๆ กันได้ โดยที่สมาชิกในครอบครัวก็ยังอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เรียกว่าเป็นการรวมพื้นที่ใช้งานได้เหมาะสมมากๆ

รายละเอียดของการตกแต่งสวนนอกจากจะลงหญ้าที่เพิ่มความสดชื่นแล้ว ยังนำหินกรวดและแผ่นทางเดินหินมาสร้างบรรยากาศให้เกิดความน่าสนใจด้วย 

เนื่องจากวางแปลนบ้านเป็นรูปตัวแอล ดังนั้นบริเวณหน้าบ้านจึงทำเป็นสวนหย่อมเต็มพื้นที่ โดยสถาปนิกเลือกปลูกและนำต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์มาจัดวางได้อย่างลงตัว มีทั้งไม้ขนาดกลางที่ในอนาคตจะสามารถให้ร่มเงาได้ สลับกับการปลูกไม้ในกระถาง แล้ววางบนอิฐที่ก่อขึ้นมาเป็นแนว เกิดความลึกตื้นดูแล้วมีมิติที่สวยงาม ซึ่งสีเขียวๆ จากต้นไม้จะดูตัดกับตัวบ้านและวัสดุไม้

การตกแต่งหน้าบ้านให้น่ามองนั้นมีความสำคัญมากเช่นกัน เพราะมันคือหน้าตาที่จะทำให้แขกที่มาเยือนนั้นประทับใจ โดยบ้านนี้ให้ความสำคัญกับธรรมชาติของทางเดินเข้าบ้านเล็กๆ ด้วยการปลูกต้นสนในกระถาง ส่วนอีกฝั่งปลูกต้นไม้ขนาดกลาง และยังมีพืชคลุมดินที่ปลุกสลับกับแผ่นทางเดิน ดูโดยรวมแล้วรู้สึกสดชื่นสบายตามากเลย