7 วิธีจัดการกับเสื้อผ้าไม่ให้เหม็นอับ

SIRIRUK SIRIRUK
Modulares Multitalent: Möbelsystem Living Cube, Till Könneker Till Könneker Phòng khách phong cách tối giản
Loading admin actions …

ใครเคยเจอกับปัญหาเสื้อผ้าเหม็นกลิ่นอับบ้าง… ยกมือขึ้น!

เชื่อว่าหลายคนน่าจะยกมือกันพรึ่บพรั่บเลยทีเดียว ยิ่งถ้าอยู่ในช่วงเวลาที่หน้าฝนมาเยือนด้วยแล้วละก็ หลายบ้านคงต้องเจอกับปัญหากลิ่นอับชื้นจากเสื้อผ้าที่ไม่แห้งสนิท หรือโดนละอองฝน ทำให้แบคทีเรียก่อตัวบนเสื้อผ้าที่ตากทิ้งค้างวันค้างคืน จนเกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ขึ้น

แต่ทราบหรือไม่ว่า ปัญหาเสื้อผ้ามีกลิ่นเหม็นอับไม่ได้เกิดจากการที่ผ้าไม่ถูกแดด หรือผ้าไม่แห้ง เพราะสภาพอากาศอับชื้น หรือฝนฟ้าตกตลอดทั้งวันแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่การที่เสื้อผ้ามีกลิ่นเหม็นอับยังอาจเกิดจากการจัดเก็บเสื้อผ้าที่ไม่ถูกวิธี พับกองรวมกันไว้มากชิ้น โดยไม่มีการแยกประเภท หรือเก็บเสื้อผ้าพับเข้าตู้ทั้ง ๆ ที่เสื้อผ้ายังไม่แห้งสนิทดี รวมถึงอาจเกิดจากการทิ้งผ้าที่ปั่นหมาดไว้ในเครื่องซักผ้าเป็นเวลานาน บางทีอาจข้ามวันข้ามคืนกันเลยทีเดียว หรือเครื่องซักผ้ากับเครื่องอบผ้าแห้งไม่สะอาดพอ เกิดการหมักหมมเนื่องจากใช้งานมาเป็นเวลานาน แต่ไม่เคยมีการชำระล้างทำความสะอาดภายในเครื่องเลย ทำให้เกิดเชื้อราในเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า นั่นก็มีส่วนทำให้เสื้อผ้าเหม็นอับได้เหมือนกันนะ

เห็นไหมล่ะว่า เสื้อผ้าเหม็นอับก็อาจเป็นปัญหาใหญ่ของครัวเรือนได้ ลองดูไอเดียบุคฉบับนี้ เป็นแนวทางในการป้องกัน และลองนำไปแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดกันเถอะ!

1.การแขวนเสื้อผ้าในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก

แม้เสื้อผ้าจะผ่านการซักมาเป็นอย่างดี แต่หากแขวนไว้ในที่ที่สามารถทำให้เกิดการอับชื้น และเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นปัญหาของกลิ่นอับในเสื้อผ้าแล้วล่ะก็ ซักมาดีขนาดไหน ก็คงหนีไม่พ้นปัญหาเดิม ๆ อยู่ดีนั่นแหละ

ฉะนั้น การแขวนเสื้อผ้าในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ลมพัดเข้าถึง หรืออยู่ภายในห้องที่ค่อนข้างโปร่งโล่ง อย่างห้องแต่งตัว ก็สามารถช่วยระงับกลิ่นอับ ลดการก่อตัวของแบคทีเรียที่จะทำให้เสื้อผ้าเกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้นะ 

2. ใช้เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าเป็นตัวช่วย

ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้ปัญหาเรื่องเสื้อผ้าไม่แห้ง และกลิ่นอับชื้น ที่มักจะเกิดตามมา ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป ด้วยการพัฒนาของวิวัฒนาการของเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าแห้ง ซึ่งมีหลายแบบหลากยี่ห้อให้เลือกซื้อหามาใช้ให้เหมาะกับแต่ละบ้านแต่ละครัวเรือน ตามขนาดของพื้นที่ และความถนัดในการใช้สอย 

ปัจจุบันเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าได้กลายมาเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่งของบ้าน และที่อยู่อาศัยไปแล้ว

3. เลือกใช้ผงซักฟอก และน้ำยาปรับผ้านุ่ม ที่ช่วยลดกลิ่นอับ

แม้จะมีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าแห้งเป็นตัวช่วยแล้ว แต่การเลือกใช้ผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า หรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการซักผ้า ร่วมกับเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าแห้ง ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยลดกลิ่นอับอันไม่พึงประสงค์ที่จะเกิดกับเสื้อผ้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า หรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม ยังมีส่วนช่วยให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมถูกอกถูกใช้ผู้ใช้อีกด้วย โดยปัจจุบันก็มีการพัฒนาผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า หรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม ออกมาหลากหลายรูปแบบ สามารถเลือกใช้ให้ตรงกับรุ่นหรือแบบของเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าแห้งได้อย่างสะดวกและง่ายดาย

4. ตากผ้าในที่ที่แสงแดดส่องถึง

หลายบ้านอาจไม่ชอบการซักผ้ากับเครื่องซักผ้า หรือไม่ต้องการจะใช้เครื่องอบผ้า แต่ชื่นชอบวิธีแบบเดิม ๆ คือ ตากผ้ากลางแสงแดดจัดมากกว่า ก็เป็นวิธีดั้งเดิมที่ยังคงใช้ได้ผลดีกับเสื้อผ้าทุกแบบทุกชนิดทุกขนาด เพียงแค่มีพื้นที่ในการตากผ้ากลางแดด อาจซักผ้าด้วยมือ หรือซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าและใช้วิธีปั่นหมาดช่วย หลังจากนั้นก็นำเสื้อผ้าที่ซักและปั่นหมาดแล้ว ออกตากแดดกลางแจ้งในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง และอากาศปลอดโปร่ง เพื่อให้แดดจัดช่วยให้ผ้าแห้ง และไร้กลิ่นเหม็นอับติดค้าง ระงับการก่อตัวของแบคทีเรียและเชื้อราที่จะเกิดกับเสื้อผ้า

5. ตากเสื้อผ้าแต่ละชิ้นให้มีระยะห่างพอเหมาะ

นอกจากจะตากผ้าในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หรือตากผ้ากลางแจ้งในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงแล้ว ควรเว้นระยะห่างจากผ้าแต่ละชิ้นให้พอเหมาะพอดี ไม่ตากผ้าบนราวแบบแนบชิดติดกันจนเกินไป เพื่อให้ผ้าทุกชิ้นมีอากาศ สายลม และแสงแดดส่องเข้าถึงส่วนต่าง ๆ ของเสื้อผ้าได้อย่างเต็มที่

6. จัดเก็บเสื้อผ้าที่ซักแล้วให้เรียบร้อย

เมื่อแน่ใจว่าเสื้อผ้าแห้งสนิทดีแล้ว วิธีการถัดมาที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ การจัดเก็บเสื้อผ้าแต่ละชิ้นแต่ละประเภทให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เสื้อผ้าชิ้นไหนควรจัดเก็บแบบใดก็ควรจัดเก็บให้เหมาะสม และแยกประเภทของเสื้อผ้าไว้ ซึ่งการแยกประเภทนี้ นอกจากจะช่วยให้เหยิบจับมาใช้ได้ง่ายและสะดวกรวดเร็วแล้ว ยังช่วยให้เสื้อผ้าประเภทเดียวกันอยู่ด้วยกัน ไม่หมักหมมปะปนกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดกลิ่นจากชิ้นหนึ่งสู่ชิ้นหนึ่งได้

และหากต้องการห้องจัดเก็บเสื้อผ้าที่สวยงามทันสมัย และมีประโยชน์สอยตรงตามที่ต้องการ ก็สามารถขอคำปรึกษาและคำแนะนำจากนักออกแบบและตกแต่งภายในได้

7. ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่เสมอ

สุดท้ายกับการทำความสะอาดเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ตลอดจนอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการซักผ้า ด้วยน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะ เพื่อไม่ให้เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าแห้ง หรืออุปกรณ์ในการซักผ้าอื่น ๆ เป็นแหล่งเพาะเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรีย อันเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดปัญหากลิ่นอับชื้นแก่เสื้อผ้า และอาจทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวกับเชื้อราตามมาได้อีกด้วย 

Cần giúp đỡ với dự án nhà của bạn?
Liên lạc!

Những nội dung đặc sắc từ tạp chí của chúng tôi